จุดประสงค์ของการโปรโมตของคุณคืออะไร?
แน่นอนว่าทุกคนอยากขายสินค้า แต่สำหรับผู้บริโภคนั่นคือปลายทาง เพราะก่อนที่จะขายได้เค้าจะต้องผ่านขั้นตอนที่เรียกว่า Marketing Funnel หรือกรวยการตลาด ที่แบ่งการรับรู้ของคนออกเป็น 3 ขั้นใหญ่ๆ ได้แก่
การรู้ว่ามีแบรนด์ของเรา (Awareness)
การตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ (Consideration)
การตกลงซื้อ (Purchase)
ควรตั้ง KPI ไว้สำหรับแคมเปญ
KPI หรือ Key Performance Indicator คือตัวเลขที่ชี้วัดว่าแคมเปญที่เราทำต้องอยู่ที่เท่าใด ถึงจะถือว่าประสบความสำเร็จ เช่น อยากได้ยอดไลค์ 1 แสนไลค์ ยอดแชร์ 5 หมื่นแชร์ อยากได้ยอดคนเข้าเว็บเดือนละ 2 หมื่นครั้ง อยากได้ยอดขายทุกเดือน 150 กล่อง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่าเราควรจะเลือกทำการโปรโมตที่ช่องทางไหนที่คุ้มค่ากับงบที่เรามีมากที่สุด
ลูกค้าของคุณคือใคร?
ข้อนี้สำคัญมากๆ เพราะสินค้าและบริการทุกชนิดย่อมมีกลุ่มลูกค้าที่ต่างกัน ทั้งช่วงวัย เพศ อาชีพ พฤติกรรม นิสัยใจคอ โดยเฉพาะพฤติกรรมออนไลน์ ถ้าเรารู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราปกติแล้วชอบเล่นเว็บหรือแอพอะไร มันก็ทำให้เราเลือกลงทุนในช่องทางที่คุ้มค่ามากที่สุด และพุ่งไปหาเอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญช่องทางนั้นๆ ได้ถูกต้อง
งบต่อแคมเปญเท่าไหร่?
งบประมาณของคุณ ควรสอดคล้องกับ KPI ที่ต้องการ โดยการคำนวณอาจใช้จากการทำการโปรโมตในครั้งก่อนๆ มาใช้ เพื่อให้คุณเห็นภาพคร่าวๆ ในใจ ทำให้คุณก็จะสามารถคุยกับเอเจนซี่ได้ว่า เรามีเงินเท่านี้ เราควรที่จะได้ผลลัพธ์กลับมาประมาณเท่านี้ เป็นต้น (การมีตัวเลขในหัวคร่าวๆ ช่วยให้ทุกคนเห็นภาพการทำงานที่ชัดเจนขึ้น แถมลดความเสี่ยงโดนหลอกปั่นราคาได้ด้วยนะ)
ขอดูรีพอร์ตทุกครั้งหลังจบงาน
ข้อนี้สำคัญมาก เพราะเอเจนซี่หรือคนที่รับทำโฆษณาออนไลน์บางที่มีราคาถูก แต่กลับไม่มีรีพอร์ตรายงานผลการดำเนินการ การรายงานผลปฏิบัติงาน บางที่ก็ใช้วิธีแคปหน้าจอมาเล่าให้ฟัง แต่ถ้าเป็นไปได้ เอเจนซี่ควรทั้งรีพอร์ตแล้วตามด้วยคำแนะนำที่ช่วยให้ Performance ดีขึ้น
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook