ยุค 2021 นี้ ถือว่าเป็นการมาของคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) หรือเงินดิจิทัล ซึ่งได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในระดับนานาชาติและในไทย นับตั้งแต่ที่บิตคอยน์ที่ทำสถิติใหม่ all-time-high ของตัวเองไปที่ 63,000 ดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าเรียกกระแสได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการทำสถิติของเหรียญคริปโตฯ อีกหลายร้อยหลายพันเหรียญที่รับอานิสงส์มีมูลค่าสูงขึ้นตามๆ กัน
และถ้าจะหาคำตอบว่าอะไรเป็นสาเหตุทำให้คริปโตเคอเรนซี หรือเงินดิจิทัลสกุลต่างๆ ได้รับความสนใจขึ้นมากมายขนาดนี้ ก็คงจะเป็นฝีมือในการจุดกระแสของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เจ้าพ่อเทคโนโลยีแห่งเทสลา (Tesla) และสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ที่โดดเข้ามาร่วมวงการเงินดิจิทัลเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ความนิยมในคริปโตเคอเรนซีมาพร้อมกับความผันผวนอ่อนไหวมากขึ้น ตั้งแต่ช่วงต้นปี หากใครได้สังเกตการณ์หรือเข้าไปร่วมในตลาดคริปโตเคอเรนซี ก็คงได้เห็นกันแล้วว่ามันค่อนข้างผันผวน มากกว่าที่เคยเป็นมาในปีก่อนหน้านี้
และสาเหตุที่คนในวงการมองกันว่าเป็นเหตุที่ทำให้ตลาดคริปโตเคอเรนซีปั่นป่วนก็คือ อีลอน มัสก์ แต่หากจะกล่าวโทษว่าเขาเป็นคนที่ทำให้ตลาดคริปโตเคอเรนซีปั่นป่วน ก็คงดูเหมือนการหาแพะรับบาป เพราะเอาเข้าจริง เส้นกราฟในตลาดคริปโตเคอเรนซีก็เคลื่อนขึ้นลงรุนแรงอยู่แล้วจากหลายๆ ปัจจัย เช่น เรื่องความน่าเชื่อในตัวเองของแต่ละเหรียญที่หลายๆ คนยังคงตั้งคำถามอยู่ หรือแม้กระทั่งเรื่องการถูกใช้คดีอาชญากรรม
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีมูลก็คงไม่มีข่าวที่แพร่หลายและเชื่อกันไปทั่วโลก เพราะย้อนดูพฤติกรรมความเคลื่อนไหวของ อีลอน มัสก์ ก็พบว่าเพียงไม่กี่คำของเขา ส่งผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดอย่างรวดเร็วจริงๆ ทำให้หลายๆ คนมองว่า เขาเป็นตัวการทำให้ตลาดคริปโตเคอเรนซีปั่นป่วนนั่นเอง
ที่มา: Thairath
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook